Dream Theater เป็นวงดนตรีแนว Progressive Rock ที่มีการผสมผสานและรับอิทธิพลจาก Heavy Metal และ Speed Metal จึงมีความซับซ้อนของทวงทำนองเพลง ดนตรีหนักแน่นและเล่นในจังหวะที่เร็ว ประมาณ 120 จังหวะต่อนาที (Beats Per Minute, BPM) และยังมีการนำแนวทางของ Classical Music มาประยุกต์เข้าไปด้วย จึงเป็นวงดนตรีที่สร้างสิ่งใหม่ให้กับวงการ ที่ไม่มีวงใดทำผลงานได้เทียบเท่า ณ เวลานี้
(ท่อน A1)
There's a story in your eyes - มีเรื่องราวในดวงตาของคุณ
I can see the hurt behind your smile - ฉันเห็นความเจ็บปวดหลังรอยยิ้มของคุณ
For every sign I recognize - ทุกๆ สัญญาณที่ฉันรู้ได้
Another one escapes me – มีบางคนจะหลบหนีฉัน
(A2)
Let me know what plagues your mind – ให้ฉันได้รู้ว่าอะไรที่รบกวนใจคุณ
Let me be the one to know you best - ให้ฉันเป็นหนึ่งเดียวที่ได้รู้ว่าคุณดีที่สุด
Be the one to hold you up - ให้เป็นผู้เดียวที่ดึงคุณขึ้นมา
When you feel like you're sinking – เมื่อเวลาที่คุณรู้สึกเหมือนจมดิ่งลงไป
(B1)
Tell me once again - บอกฉันอีกครั้ง
What's beneath the pain you're feeling – อะไรอยู่ใต้ความเจ็บปวดที่คุณรู้สึก
Don't abandon me – อย่าผละไปจากฉัน
Or think you can't be saved - หรือคิดว่าคุณจะไม่ปลอดภัย
(Chorus)
I walk beside you - ฉันเดินอยู่ข้างคุณ
Wherever you are - ทุกที่ที่คุณอยู่
Whatever it takes - ทุกๆสิ่งที่จะทำ
No matter how far - ไม่ว่าจะไกลแค่ไหน
Through all that may come - ทั้งหมดทั้งมวลที่จะเข้ามา
And all that may go – และแล้วมันก็จะผ่านไป (...ประมาณนี้ ??)
I walk beside you - ฉันเดินอยู่ข้างคุณ
I walk beside you
Summon up your ghost for me – ทำให้มันออกมา วิญญาณของคุณ เพื่อฉัน (???)
Rest your tired thoughts upon my hands - ผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยของคุณมาที่มือของฉัน
Step inside this sacred place - ก้าวมาข้างในสถานที่ศักดิ์สิทธ์แห่งนี้
When all your dreams seem broken - เมื่อยามที่ทุกฝันของคุณจะแตกสลาย
Let's remain inside this temple - ปลดปล่อยมันให้คงอยู่ภายในโบสถ์แห่งนี้
Let me be the one who understands - ให้ฉันเป็นผู้เดียวที่เข้าใจคุณ
Be the one to carry you - ให้เป็นคนเดียวที่แบกรับคุณไว้
When you can walk no further - เมื่อยามที่คุณเดินไปแบบไร้แรงส่งเสริม
(B2)
Tell me once again - บอกฉันอีกครั้ง
What's below the surface bleeding – ว่าอะไรอยู่ใต้ผิวที่มีเลือดไหล (อะไรอยู่ใต้ความเจ็บปวดที่คุณรู้สึก)
If you've lost your way - ถ้าคุณหลงทาง
I will take you in - ฉันจะพาคุณกลับมา
I walk beside you
Wherever you are
Whatever it takes
No matter how far
Through all that may come
And all that may go
I walk beside you
I walk beside you
(ท่อน C, ท่อนแยก เปลี่ยนคีย์)
Oh, when everything is wrong - เมื่อทุกสิ่งผิดหมด
Oh, when hopelessness surrounds you - เมื่อความสิ้นหวังอยู่รอบตัวคุณ
Oh, the sun will rise again - ดวงอาทิตย์กำลังจะลับไปอีกครัง
The time you sweep against will carry you back home – เวลาของคุณค่อยๆหมดไป และจะพาคุณกลับบ้าน (???)
So don't give up - ดังนั้นอย่ายอมทิ้งมันไป
Don't give in - อย่ายอมแพ้
I walk beside you
Wherever you are
Whatever it takes
No matter how far
Through all that may come
And all that may go
I walk beside you
I walk beside you
…
เข้าใจว่าคงจะหมายถึง พระเจ้า ที่จะอยู่ข้างทุกๆ คนตลอดเวลา ทุกๆ คนจงอย่ายอมแพ้ ล้มแล้ว จงลุกขึ้นสู้ต่อไป
ผมจะใส่แผ่นของ Dream Theater ไว้ในเครื่องเล่นของรถยนต์ และไม่ได้เอาออกนานหลายเดือนแล้ว เพราะผมฟังยังไงก็ไม่เบื่อ เลยลองมาแปลเนื้อเพลงดู
แค่แปลเนื้อก็รู้สึกสู้แล้ว พอฟังเพลงไปด้วย สู้ตายเลย คือ เพลงมันปลุกเร้าอารมณ์เราได้
คุณเลือกเพลงที่คุณชอบ เอามาฟังมา เอามาร้องตาม จะเป็นการฝึกภาษาอังกฤษแบบธรรมชาติๆ
ลองไปฟังเพลง Imagine ร้องง่าย และเพลงมีความหมายดีมากๆ เพิ่งจะเข้าใจว่า ทำไมเพลงนี้จึงมีพลังมาก และยังอยู่ในใจของคนทั้งโลก
-Imagine – ไม่ต้องเป็นจริงก็ได้
แสดงสด
http://www.1loveshopping.net/977
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น