คลังบทความ

Dunken Dance

HealthySkin : Nu Skin Representative - ผลิตภัณฑ์ นู สกิน

วันพฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2553

กว่าจะเป็น ศอช.

ไม่ว่าโครงการ ศอช. (ศูนย์อำนวยความสะดวกพื้นที่ในการช้อปปิ้ง) ของ ตัน ภาสกรนที ที่ลุกขึ้นจัดงานก่อนใครแบบ "เหนือเมฆ" จะเกิดขึ้นจากวิธีคิดแบบ "การตลาด" เป็นตัวตั้ง หรือมาจาก "น้ำใสใจจริง" ที่อยากช่วยบรรดาปัญหาความเดือดร้อน แต่ผลลัพธ์แบบวิน-วิน ไม่ว่าจะมองในมุมสังคมหรือธุรกิจ นั่นก็เพียงพอแล้วที่ทำให้ ตัน โออิชิ พร้อมกับลูกสาวได้ใจผู้คนในสังคมไปไม่น้อย ดีกว่าคนที่เอาแต่วิจารณ์หรือไม่เคยทำอะไรเพื่อสังคม

" สมมติถ้าใครจะมองคุณตันในแง่นั้นว่าอยากโปรโมทอย่างเดียวเลยนะ ผมว่ามันก็ไม่ผิดนะ และยิ่งต้องชื่นชมว่าเป็นการตลาดที่มาเหนือเมฆ เพราะสังคมก็ได้ด้วย แต่เท่าที่ผมรู้จักเขาไม่ใช่คนอย่างนั้น มีคนถามว่าเอาพื้นที่มาให้คนขายของ 10 วันฟรีๆ แล้วไม่ห่วงธุรกิจตัวเองเหรอ (สนามฟุตบอลในร่ม, ผับฟั้งกี้วิลล่า, ร้านอาหารในโครงการอารีน่า) คุณตันพูดคำหนึ่งว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาคิดเรื่องส่วนตัว คิดเรื่องธุรกิจตัวเอง นี่คือเวลาของส่วนรวม " โน้ส อุดม บอกอย่างนั้น

เรื่องของเรื่องต้นคิดไอเดียโปรเจค ศอช. เริ่มจาก โน้ส อุดม นั่งดูทีวีและได้ยินข่าวคนรอบตัวที่ร้านโดนไฟไหม้ เลยนึกถึงโครงการอารีน่าของตัน ซึ่งอยู่กลางซอยทองหล่อ ก่อนจะคุยกับกิ๊ฟ-วริษา ลูกสาวตันก่อนคนแรก ตามมาด้วยขายไอเดียกับตัน ซึ่งตอนนั้นอยู่ระหว่างบินไปดูงานที่เซี่ยงไฮ้ กลับมาถึงเมืองไทย ตันโทรหาโน้ส ตอนเที่ยงคืน คุยกันไม่เท่าไร บอกให้คิดชื่อโครงการมาด่วน เพราะจะต้องบินไปญี่ปุ่น

"ถ้าคุณตันพูดแค่คำเดียวว่าอย่าเลย เหนื่อยเปล่าๆ รัฐบาลก็ทำ แค่นี้ก็จบนะโครงการนี้คงไม่เกิด คืนนั้นเลยตั้งชื่อ ศอช.นี่แหละ ต้องนั่งอธิบายมุกให้คุณตันฟังอีกนะ เพราะการที่จะทำอะไรให้เรียกร้องความสนใจแบบฉับพลันทันที มันต้องเป็นคำที่ตอนนี้อยู่ในหัวของทุกคน ประชุมกันหูตูบมากเลยตอนแรกก็เริ่มจาก 3 คนก่อนนี่แหละ คุณตัน กิ๊ฟ และ ผม แล้วก็ดึงตุ๊กตา(อินทิรา แดงจำรูญ) มาช่วยด้วย มีทีมคุณตันมาช่วยด้วย"

โน้ส บอกว่า ถึงตอนนี้รู้สึกโล่ง ตอนแรกกลัวว่าถ้าคนไม่มาช้อปกันแล้วจะทำให้พ่อค้าแม่ค้าใจตก กันไปอีก แต่พอเห็นคนมาช้อปกันเต็มสนามแบบนี้ พูดได้คำเดียวว่า "ชื่นใจ" และที่สามารถคิดเร็วทำเร็วเตรียมงานแค่ 3 วัน นั่นเพราะมาจากความรู้สึกว่าอยากจะทำ และใช้วิธีรบกันแบบกองโจร ซึ่งมีคนที่เป็นแม่ทัพขาลุยอย่างตันเป็นหัวหมู่ทะลวงฟัน คิดแล้วลงมือลุยเดินหน้าไม่มีคำว่าถอย
บูติคโฮเทลระส่ำขายกิจการ-เปิดต่างชาติเช่า
แหล่งข่าวในวงการธุรกิจโรงแรมบูติค โฮเทล รายหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจบูติค โฮเทล เกิดขึ้นใน จ.เชียงใหม่ จำนวนมาก ปัจจุบันคาดว่ามีประมาณ 30-40 แห่ง จำนวนห้องพักรวมไม่ต่ำกว่า 500-600 ห้อง และอยู่ระหว่างการก่อสร้างเตรียมเปิดบริการภายในปีนี้อีก 3-4 แห่ง ที่เพิ่มขึ้นเพราะเป็นธุรกิจที่ใช้เงินทุนต่ำ และค่าบริหารจัดการไม่สูงเมื่อเทียบกับโรงแรมขนาดใหญ่ ส่งผลให้ระยะหลังเกิดปัญหาห้องพักล้นเกินความต้องการ

นอกจากนี้ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของ จ.เชียงใหม่ ชะลอตัวและถดถอยลง อัตราการเข้าพักในโรงแรมเริ่มลดลงจากเดิมช่วงไฮซีซันเคยสูงถึง 90-100% แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 70% และยังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ช่วงโลว์ซีซันก็ลดลงเหลือประมาณ 20% ส่วนโลว์ซีซันปีนี้มีแนวโน้มลดเหลือเพียง 10%

แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า สถานการณ์ในธุรกิจที่ย่ำแย่ ประกอบกับถูกปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองซ้ำเติม ส่งผลให้ปัจจุบันมีเจ้าของบูติค โฮเทล หลายแห่งประกาศขายกิจการ นอกจากนี้ ยังมีอีก 2 แห่ง ที่เปิดให้นักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาเช่ากิจการเปิดรับเฉพาะลูกค้าชาวต่างชาติ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มโฮมสเตย์ กลุ่มสุขภาพ ฯลฯ

นายจิตพงศ์ เกื้อวงศ์ ประธานกลุ่มบูติค โฮเทล เชียงใหม่ กล่าวว่า "ปลายปี 2552 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2553 ภาพรวมธุรกิจเริ่มฟื้นตัวและปรับตัวดีขึ้น หลังได้รับผลกระทบจากเหตุความวุ่นวายทางการเมืองในเดือน เม.ย. 2552 แต่ปรากฏว่าปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงเดือน เม.ย. ต่อเนื่องถึง พ.ค.รุนแรงและหนักที่สุด แม้เทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาอัตราเข้าพักจะใกล้เคียงกับปีก่อน ประมาณ 40-50% แต่หลังผ่านพ้นสงกรานต์อัตราการเข้าพัดลดลงต่อเนื่องจนถึงขณะนี้เหลือเพียง 20% แต่คาดว่าสถานการณ์ตั้งแต่เดือน มิ.ย.เป็นต้นไปจะหนักที่สุด" นายจิตพงศ์กล่า

ิBoutique hotel - เป็นโรงแรมที่เน้นดีไซด์ เพื่อลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ในบ้านเราจะมีหลายๆ แห่งจะออกไปทาง low cost คือ ต้นทุนต่ำในการจัดการของโรงแรมเอง และห้องราคาถูกสำหรับลูกค้าด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น