ตำราดูหมอยิปซี THE KEY OF LIFE พร้อมเอกสาร
คนไทยจนไม่จริง ยอดขายรถโต52%
ตลาดรถยนต์โตไม่หยุด 5 เดือน โต 52% ยอดขายเกือบทะลุ 3 แสน ปรับเป้าผลิตเพิ่ม
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนาพงษ์ โฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศเดือน พ.ค.53 อยู่ที่ 62,205 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 8.89% เนื่องจากในช่วงต้นปีที่ผ่านมามีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นทั้งรถยนต์ประหยัดพลังงาน รถยนต์ขนาดเล็กและขนาดกลาง โดยรวมยอดขายรถยนต์ในประเทศช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 286,135 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 52.2% ส่วนยอดผลิตรถยนต์ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้มีทั้งสิ้น 620,116 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 97.26%
"จะมีการปรับเป้ายอดผลิตรถยนต์ในปี 53 นี้ใหม่ คาดว่าจะมียอดผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นประมาณ 5 หมื่นคันจากเดิมที่ตั้งเป้ายอดผลิตไว้ที่ 1.4 ล้านคันเป็น 1.45 ล้านคัน หลังมีปริมาณคำสั่งซื้อทั้งในและต่างประเทศทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัญหาการชุมนุมทางการเมืองของไทยช่วงเดือน พ.ค.นั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดการผลิตรถยนต์เท่าใดนัก" นายสุรพงษ์กล่าว
สำหรับยอดจำหน่ายรถยนต์รวมทุกประเภท 5 เดือนแรกของปี 2553 จำหน่ายได้ทั้งสิ้น 286,135 คันนั้นถือว่าเพิ่มขึ้น 52.18% จากช่วง 5 เดือนแรกของปีที่ผ่านมา โดยทุกตลาดมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว สำหรับตลาดรถยนต์รวมทุกประเภท โตโยต้า จำหน่ายได้เป็นอันดับ 1 ด้วยยอดจำหน่าย 117,776 คัน คิดเป็น 41.16% อีซูซุมาเป็นอันดับ 2 คือ 57,865 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 20.22% และอันดับ 3 คือ ฮอนด้า จำหน่ายได้ 39,247 คัน คิดเป็น 13.72%.
กู้เงินรอเฮแบงก์แข่งตัดราคา
คาดครึ่งปีหลังแบงก์แข่งเดือดปล่อยสินเชื่อแย่งลูกค้า จับตางัดสารพัดแคมเปญตัดราคาสู้ อานิสงส์ตกใส่มือนักกู้
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2553 ระบบธนาคารพาณิชย์จะมีการแข่งขันการปล่อยสินเชื่อรุนแรงมาก เพื่อที่จะทำตามเป้าหมายสินเชื่อที่ได้ตั้งไว้ ดังนั้น ทุกธนาคารจะใช้เครื่องมือทุกประเภท ทั้งการผ่อนปรนเกณฑ์การอนุมัติสินเชื่อ และเงื่อนไขด้านราคาเข้าสู้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ลูกค้าอย่างมาก "ตอนนี้แบงก์ทุกแห่งยังไม่มีแห่งใดปรับเป้าหมายสินเชื่อปีนี้ ดังนั้น ครึ่งปีหลังการแข่งขันสินเชื่อจะรุนแรงอย่างมาก โดยทุกแห่งจะใช้เครื่องมือทุกประเภทที่มีอยู่เข้าแข่งขัน ทำให้เชื่อว่าการเติบโตสินเชื่อทั้งระบบปีนี้จะสูงถึง 6-8% จากปีก่อน" นายประสารระบุ
ทั้งนี้ ความต้องการสินเชื่อในช่วงดังกล่าว จะมาจากธุรกิจส่งออก ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นสินเชื่อหมุนเวียน รวมถึงสินเชื่อเพื่อการลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน เช่น โรงไฟฟ้าพลังน้ำ หรือถ่านหิน ขณะเดียวกันต้องจับตาการขยายตัวของสินเชื่อภาครัฐ เช่น รถไฟฟ้า ระบบสาธารณูปโภค และโครงการไทยเข้มแข็ง ส่วนสินเชื่อรายย่อยที่โดดเด่นคือสินเชื่อลีสซิ่งรถยนต์ที่จะกลับมาขยายตัวสูงในช่วงครึ่งหลัง แต่สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอาจขยายตัวในอัตราชะลอตัวลงบ้าง เนื่องจากช่วงไตรมาสแรกเติบโตสูงมาก
www.bangkokbiznews.com/home/news/business/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น