จานดำ O2 ดูบอลโลกได้แล้ว

จานดำกับกล่อง O2 ดูบอลโลกได้แล้ว
จานดาวเทียม กับกล่อง O2 ดูบอลโลกได้แล้ว เพราะได้ทำการใส่ตัวถอดรหัสบอลโลกเข้าไปในกล่อง O2 แล้ว คาดว่าจะรับชมได้ในวันนี้ 18 มิ.ย. 53 ในคู่ที่ 2 และ 3 ซึ่งจะทำให้สามารถรับชมได้ประมาณ 1 ล้านจาน ที่ติดอยู่ทั่วประเทศ

คือ ทาง PSI จะส่งการถอดรหัสเข้ามาที่กล่อง O2 ผู้ที่มีจานดาวเทียมดำ ต้องถอดปลั๊กกล่อง O2 ออก แล้วเสียบเข้าไปใหม่ เพื่อให้กล่องได้ทำการติดตั้งข้อมูลการถอดรหัสใหม่ เท่านี้ครับก็จะชมบอลโลกได้ ...ตามข่าว จานดำที่เป็นรุ่นอื่นน่าจะยังรับชมบอลโลกไม่ได้ ครับ
ข่าวจาก ทีวีช่อง 3 กลยุทธ์แบบตั้งรับ

เริ่มที่ กลยุทธ์เชิงรุก กันก่อนครับ ในที่นี้หมายถึง การทำการตลาด และการทำการขาย นะครับ

การส่งเมล์ การเคาะประตูบ้าน การขายต่อหน้า เช่น ขายสินค้าให้เพื่อนร่วมงาน การทำกิจกกรรมการตลาด (Event) การโฆษณาในสื่อต่างๆ เหล่านี้เป็นการตลาดเชิงรุก คือ ออกไปหากลุ่มเป้าหมาย ที่คาดว่าจะซื้อสินค้าเรา

ในงานออนไลน์ การส่งเมล์ คือเครื่องมือหลักในการทำงาน เมล์ถูกส่งเข้าไปถึงลูกค้าเป้าหมาย คุณจะเห็นเมล์โฆษณาขายสินค้ามากมายที่เข้ามายังอีเมล์ของคุณ จนกลายเป็นเมล์ขยะไป จากการปิดกันเมล์ขยะของผู้ใช้อีเมล์ ทำให้เมล์ที่เราต้องการส่งไป ผู้รับไม่ได้อ่านเพราะมันเข้าไปอยู่ในกล่องเมล์ขยะหมด

และผู้ให้บริการเมล์ของต่างประเทศ จะไม่ยอมให้เกิดเมล์ขยะ (Spam Mail) จึงมีมาตรการในการควบคุมเมล์ขยะ ทำให้การส่งเมล์ไม่ได้ผลเท่าที่ควร แต่ถ้าคุณไม่ได้ใช้โปรแกรมส่งเมล์จำนวนมากๆ การส่งเมล์ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญอยู่นะครับ

มาดูกลยุทธ์ตั้งรับกันบ้าง เช่น การเขียนบล็อก แบบที่คุณอ่านนี้ การโพสโฆษณาลงบนเว็บบอร์ด การมีหน้าร้าน ไม่ว่าร้านจริง หรือ ร้านออนไลน์ คือ เราต้องรอให้มีคนเดินเข้ามาที่ร้านของเราเพื่อซื้อสินค้า จึงเป็นการตั้งรับ เหมือนการตั้งรับจากการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามที่บุกมาที่เมืองของเรา การรุก คือ เราไปตีเมืองอื่น

ข้อดีของการตั้งรับ
ลูกค้าจะเข้ามาดูข้อมูล และสินค้าอย่างใจเย็น ค่อยๆ ดู และใช้เวลานานบนเว็บนั้นๆ หรือ หน้าร้านออนไลน์อันนั้น เพราะเขาเสริชหาและเข้ามาที่หน้าเว็บนั้นเอง ด้วยความสนใจและต้งใจที่จะเข้ามาที่เว็บนั้น

ซึ่งผมใช้การเขียนบล็อกมาสัก 4-5 บล็อก แล้ว และทั้งหมดนี้ติดที่หน้าแรกๆ ของ Google และช่วยในงานออนไลน์ได้มากเลย และไม่ค่อยได้ใช้ส่งเมล์ในการโฆษณา จะใช้ในการให้ข้อมูลกับสมาชิกมากกว่า

การเขียนบล็อก ถ้าเราคัดลอกมาจากที่อื่นจะติด Google ยากกว่า เพราะ Google จะรู้ว่าเราคัดลอกมา จากเครื่องมือที่ Google ใช้จัดลำดับเว็บต่างๆ ถ้าเราเขียนเรื่องเองได้ และมี Key word ที่จะเลือกใช้และสัมพันธ์กับชื่อบล็อก ก็จะติด Google ได้เร็ว ครับ เช่น เสื้อผ้าเกาหลี โดยมีเรื่องอื่นที่เป็นเกาหลี ไม่ว่า นักร้องเกาหลี แฟชั่นเกาหลี ละครเกาหลี

ตัวอย่าง บล็อกที่ติด Google กับจำนวนเรื่องเพียง 20 กว่าเรื่อง ซึ่งบล็อกอื่น 30 เรื่องถึงจะเริ่มติด
- http://healthyskiner.blogspot.com/

แต่บล็อก 1loveshop นี้ เขียนมา 80 เรื่องแล้วยังไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ คือติดอยู่แต่ Key word ยังไม่ได้ เพราะสินค้าของ 1love มี 1,800 รายการ คือ ต้องเลือกมาสักหมวด และทำ Key word อันนั้น คำที่เริ่มติดแล้ว เช่น มินิมาร์ทออนไลน์, จานดาวเทียมดำ

และอีกส่วนนึงเป็นเพราะ เรื่องส่วนใหญ่คัดลอกมาจากที่อื่น 80-90% และเขียนถี่เกินไป Google จะเข้าใจว่าเราปั่นเรื่องให้ได้จำนวนมากๆ ทำให้ไม่ติดอย่างที่ต้องการ

คือ ถ้าเขียนวันละเรื่องสองเรื่อง จะเป็นธรรมชาติของคนปกติ และเขียนเรื่องที่คิดขึ้นเอง เป็นเรื่องที่ Google ยังไม่เคยเห็นมาก่อน ก็จะติดบน Google ได้แบบไม่ยาก

ถ้าจะลองเขียน ก็เริ่มจาการคัดลอกมาจากที่อื่นก่อน ครับ ให้เนื้อหาเป็นเรื่องเดียวกัน เช่น “การช่วยผู้ประกอบการจากเหตุจลาจล” ซึ่งเป็นคำที่บล็อกนี้ใช้ในตอนแรก และก็ติด Google แล้ว
สามารถสมัครขอหน้าบล็อกได้ที่ด้านบนขวามือของหน้าเว็บนี้ ครับ เป็นพื้นที่ให้บริการฟรีของ Google ทำบล็อกได้ 100 ชื่อ ครับ คุณใช้ไม่หมดแน่นอน ถ้าคุณไม่มีเครื่องมือปั่นบล็อก

ส่วนการโพสเว็บบอร์ด จะมีคนเข้ามาเห็นได้ง่ายกว่าการเขียนบล็อก แต่จุดที่เราโพสจะลงไปอยู่หลังๆ ในที่สุด แต่การเขียนบล็อก ยิ่งเขียนมากก็ยิ่งดี และเป็นสมบัติของเราที่ใช้ได้ในระยะยาว หน้าที่เขียนไปแล้วก็ยังสามารถติด Google ได้อยู่ ถึงแม้จะเขียนไว้นานแล้ว

ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม

By 1loves977


สมัครสมาชิกฟรี
http://www.1loveshopping.net/977
.