ซีพีออลล์ ทรูวิชั่น เดอะมอลล์ กรุ๊ป และสหพัฒน์ ลุยธุรกิจการตลาดแบบตรง รับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ช้อปออนไลน์ และคอลล์เซ็นเตอร์
ทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจการตลาดแบบตรง กล่าวว่า ภาพรวมของธุรกิจการตลาดแบบตรง (Direct Marketing) ปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้มีอัตราการเติบโตไม่น้อยกว่า 30% จากการขยายตัวของสื่อใหม่ ทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี และ นิว มีเดีย ส่งผลต่อการขยายตัวของการตลาดแบบตรง รวมทั้งการขยายตัวของสิ่งพิมพ์และบัตรเครดิต ส่งผลให้มีเดีย เพิ่มปริมาณเพิ่มขึ้นมาก
โอกาสของธุรกิจในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายด้วยนิว มีเดีย วิธีการใหม่ๆ ได้ทำให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ เริ่มมองเห็นและต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างเค้กก้อนนี้ แม้แต่บริษัทใหญ่ๆ อย่าง ซีพี ออลล์, ทรูวิชั่น, เดอะมอลล์ กรุ๊ป สหพัฒน์ และ นักลงทุนต่างชาติ (Home Shopping) ไม่ว่าจะเป็น จีเอส โฮมชอปปิง หรือ บริษัท Mitsui ซึ่งมีแผนที่จะกระโดดเข้ามาร่วมวงในธุรกิจการตลาดแบบตรงเช่นกัน
จากความพร้อมของผู้ประกอบการรายใหญ่ ส่งเสริมให้การตลาดแบบตรงกับผู้บริโภคคนไทย มีความน่าเชื่อถือ น่าสนใจมากยิ่งขึ้น ขณะที่เจ้าของสินค้าต่างๆ ก็ได้เริ่มเห็นประสิทธิภาพของการตลาดแบบตรงมากขึ้น ดังนั้น สีสัน และความหลากหลายของสินค้า และบริการ จะทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น และจากความไม่มั่นใจในความปลอดภัยในสถานที่สาธารณะต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคอยู่กับบ้านมากขึ้น จากจุดนี้เอง จะเป็นตัวสร้างการเติบโตให้การตลาดแบบตรง แบบก้าวกระโดด
แนวทางการตลาดของบริษัทในปีนี้ มุ่งเน้นช่องทางคอลล์เซ็นเตอร์เป็นหลัก เนื่องจากพบว่า เป็นช่องทางที่มีศักยภาพในการดึงฐานลูกค้าเก่าที่มีกว่า 1 ล้านราย ให้สามารถสั่งซื้อยอดขายให้เพิ่มสูงขึ้นได้มาก รวมไปถึงช่องทางออนไลน์ จากการเปิดตัวเว็บไซต์ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะเข้าถึงกลุ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้ และจะไม่เน้นขยายช่องทางขายเพิ่มเติม แต่จะเน้นช่องทางเก่าซึ่งมีกว่า 10 ช่องทางให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ภายใต้งบประมาณ 465 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 100 ล้านบาท
พรทิวาผนึก รร.ดึงนักช้อปลุยพัทยา5-6 มิ.ย.
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์กำหนดจัดงาน "รวมพลังเพื่อวันใหม่" เพื่อจัดสถานที่ให้ผู้ค้าที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ให้มีสถานที่และโอกาสนำสินค้ามาจำหน่าย มีเงินทุนหมุนเวียน แก้ปัญหาสภาพคล่องทางธุรกิจ ทั้งนี้ การจัดงานกำหนดเปลี่ยนสถานที่ไปที่ต่างๆ ให้กระจายตามพื้นที่ ที่มีกำลังซื้อสูง โดยในวันที่ 5-6 มิ.ย. ที่เมืองพัทยา
สถานที่จำหน่ายสินค้ามีความยาว 4 กิโลเมตร ตลอดแนวชายหาด มีการจัดแบ่งสินค้าตามหมวดหมู่และกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมกับผู้ซื้อ เบื้องต้นสินค้าที่จะนำมาจำหน่าย จะเป็นของกลุ่มผู้ประกอบการ จากย่านประตูน้ำ ราชประสงค์ และกระทรวงพาณิชย์จะจัดงานธงฟ้าราคาประหยัดควบคู่ไปด้วย เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพให้ประชาชนทั่วไป
นางพรทิวา กล่าวว่า ขณะนี้ กำลังประสานกับโรงแรมในพื้นที่เมืองพัทยา และสถานที่ท่องเที่ยว ร่วมจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดให้คนจากกรุงเทพฯ หรือจังหวัดใกล้เคียงเดินทางไปร่วมงาน ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ร่วมงานประมาณ 2 แสนคน มียอดขายใกล้เคียงกับการจัดงานที่ถนนสีลม หรือไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท
ที่มา : www.bangkokbiznews.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น