ผู้ประกอบการ"ราชประสงค์"ร้องธปท.ช่วย 9 เรื่อง แบงก์ชาติชี้ลดดอกเบี้ยบัตรเครดิตไม่ได้
ผู้ประกอบการราชประสงค์ยื่นข้อเรียกร้อง ขอธปท.ช่วย 9 เรื่อง ทั้งผ่อนผันยืดคืนหนี้ ลดดอกเบี้ย ขอวงเงินกู้ฉุกเฉินไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ผู้บริหารแบงก์ชาติชี้ ลดดอกบัตรเครดิตไม่ได้ แนะเข้าโครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย. กนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย 1.25%
กลุ่มผู้ประกอบราชประสงค์ที่เรียกตัวเองว่า ผู้ประกอบอาชีพสุจริตที่ได้รับความเดือดร้อนจากการชุมนุมทางการเมือง (สดช.) นำโดยนายสมบูรณ์ นำทิพย์จันทาเจริญ เข้ายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือทางการเงินต่อผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ผ่านนายสรสิทธิ์ สุนทรเกศ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
เมื่อวันที่ 21 เมษายน
นายสรสิทธิ์ กล่าวว่า ธปท.ได้ประสานงานกับธนาคารพาณิชย์ผ่านนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ กรรมการผู้จัดการธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประธานสมาคมธนาคารไทยไปแล้ว ทั้งกรณีขอผ่อนผันระยะเวลาการชำระหนี้ในส่วนของเงินต้น และขอลดดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งทั้ง 2 กรณีธนาคารพาณิชย์จะพิจารณาลูกหนี้เป็นรายกรณีไป ว่าจะสามารถขยายระยะเวลาการชำระหนี้ได้มากน้อยเพียงใด
ส่วนกรณีการขอเงินกู้ผ่อนปรนอัตราดอกเบี้ยต่ำหรือซอฟต์โลนนั้น ตามกฎหมาย ธปท.คงไม่สามารถปล่อยกู้ให้ได้ แต่รับจะประสานงานกับภาครัฐ และธนาคารพาณิชย์ช่วยพิจารณาให้ เช่นเดียวกับการขอวงเงินกู้ฉุกเฉินโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ก็เปิดช่องให้สามารถเข้าร่วมโครงการค้ำประกันสินเชื่อ บสย.ได้อยู่แล้ว
นายสมบูรณ์ กล่าวอีกว่า ประเด็นหลักที่เรียกร้องและขอความช่วยเหลือ ประกอบด้วย 9 ประเด็นคือ
1.ขอผ่อนผันระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ในส่วนของเงินต้น ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553
2.ขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ เหลือไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปี ไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553
3.ขอวงเงินกู้ฉุกเฉินโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน วงเงินไม่น้อยกว่ารายได้ที่มีการนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มตลอดปี 2552 อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเอ็มแอลอาร์ ระยะเวลาผ่อนชำระไม่น้อยกว่า 3 ปี ชำระดอกเบี้ยทุก 12 เดือน โดยจะต้องดำเนินการภายใน 7 วัน
4.ขอวงเงินกู้ฉุกเฉินโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้สมาชิกกลุ่ม ที่เป็นหนี้นอกระบบ วงเงินไม่น้อยกว่าหนี้นอกระบบทั้งหมดและอนุมัติวงเงินกู้อีกสองเท่า เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง อัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ ระยะเวลาผ่อนชำระไม่น้อยกว่า 3 ปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
5.ขอวงเงินกู้ฉุกเฉินโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อชำระค่าสินค้า และค่าบริการ ตามมูลค่าใบกำกับภาษีซื้อตลอดปี 2553 โดยชำระให้กับเจ้าหนี้ผู้ผลิต,ผู้จัดจำหน่าย,ผู้ให้บริการ โดยตรงเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับเจ้าหนี้
6.ขอวงเงินกู้ฉุกเฉินโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ตามมูลค่าสต๊อคสินค้าที่มีอยู่ เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง อัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ ระยะเวลาผ่อนชำระไม่น้อยกว่า 3 ปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน
7.ขอลดอัตราการผ่อนชำระบัตรเครดิตขั้นต่ำ จาก 10% เป็น 3% และลดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตต่ำกว่าเอ็มแอลอาร์ เป็นระยะเวลา 3 ปี
8.ขอเพิ่มวงเงินอนุมัติบัตรเครดิต,สินเชื่อส่วนบุคคลทุกชนิด,บัตรผ่อนสินค้า และบัตรกดเงินสด อีก 10
เท่าของวงเงินที่ได้รับในปัจจุบัน สำหรับสมาชิกกลุ่ม ที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดีมาตลอด
และ 9.ขอผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชี-การเงินมืออาชีพ ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ ,วางแผนทางการเงิน และวางระบบบัญชีรายรับ-รายจ่าย ตลอดจนจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมซอฟต์แวร์ระบบบัญชี พร้อมฝึกอบรมระบบบัญชีให้สมาชิกกลุ่มอย่างใกล้ชิด โดยทางรัฐบาลเป็นผู้สำรองค่าใช้จ่ายทั้งหมด แล้วให้สมาชิกกลุ่มฯ เริ่มผ่อนชำระคืนภายใน 3 ปี
อ่านต่อ
...
...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น